Accessibility Tools

Skip to main content

การบริจาคพลาสมา (Single Donor Plasma)

พลาสมาหรือน้ำเหลืองนั้นเป็นส่วนของประกอบของเลือดที่ได้หลังจากแยกส่วนของเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดออกไป ในพลาสมาจะประกอบไปด้วยสารโปรตีน ได้แก่ อัลบูมิน โกลบูลิน อิมมูโนโกลบูลิน สารที่ทำให้เลือดแข็งตัว มีหน้าที่สำคัญในการรักษาปริมาณน้ำภายในหลอดเลือด ต่อต้านเชื้อโรคและช่วยในการแข็งตัวของเลือด สามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยา ได้แก่

  • 1. แฟคเตอร์ 8 (Factor VIII Concentrate)

    โรคฮีโมฟีเลีย เอ (โรคเลือดออกง่ายทางพันธุกรรม)

  • 2. ไอวีไอจี IVIG (Intravenous Immune Globulin)

    โรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคทางระบบประสาทที่มีสาเหตุจากความผิดปกติ ของภูมิคุ้มกัน

  • 3. อัลบูมิน (Albumin)

    โรคเรื้อรังที่มีภาวะขาดสารอัลบูมินในกระแสเลือด เช่น โรคไต โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งที่มีความ ล้มเหลวของระบบอวัยวะ

  • 4. เซรุ่มป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี และเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

คุณสมบัติผู้บริจาคพลาสมา

บริจาคพลาสมา
  • อายุ 17 ปีบริบูรณ์ – 60 ปี (บริจาคเกล็ดเลือดครั้งแรก อายุไม่เกิน 50 ปีและต้องบริจาคโลหิตรวมที่ศูนย์บริการโลหิตฯ มารวมอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 1 ปี)

  • น้ำหนักอย่างน้อย 50 กิโลกรัม

  • เส้นเลือดที่ข้อพับแขนมองเห็นชัดเจน

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงก่อนมาบริจาค เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ เป็นต้น

  • มีสุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามในการบริจาคโลหิต 

  • สำหรับผู้บริจาคโลหิตโครงการบริจาคพลาสมาทำเซรุ่มไวรัสตับอักเสบบี และเซรุ่มพิษสุนัขบ้า

  • โครงการบริจาคพลาสมาทำเซรุ่มไวรัสตับอักเสบบี เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเจาะเลือดประมาณ 6 mL ส่งงานห้องปฏิบัติการเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดเพื่อตรวจ Anti-HBsAg ว่ามีหรือไม่ เมื่อทราบผลทำการคัดแยกเข้าโครงการ ในกรณีที่ผลการตรวจ Anti-HBsAg เป็นบวก (มากกว่าหรือเท่ากับ 5 IU/mL) ให้เข้าโครงการเซรุ่มป้องกันไวรัสตับอักเสบบี (Human Hepatitis-B Immunoglobulin HBIG) และทำบัตรนัดฉีดยา โดยนัดฉีดยาเดือนละ 1 เข็ม เป็นเวลา 3 เดือน ติดต่อกันพร้อมทั้งเจาะโลหิตตรวจหาระดับ Anti-HBsAg ก่อนฉีดยาเข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 ผลภูมิหลังฉีดยาครบ 3 เข็มต้องมากกว่า 10 IU/mL เมื่อฉีดยาเข็มที่ 3 ครบแล้ว 2 สัปดาห์ เริ่มบริจาคพลาสมาได้และสามารถบริจาคได้ทุก 14 วัน ในระหว่างที่อยู่ในโครงการบริจาคพลาสมาจะต้องมีการฉีดยากระตุ้นตลอดทุก 3 เดือนพร้อมทั้งตรวจระดับ Anti- HBsAg ทุก 3 เดือน
  • โครงการเซรุ่มป้องกันพิษสุนัขบ้า (Human Rabies Immunoglobulin, HRIG) โดยจะฉีดวัคซีน VERORAB 0.2 mL ID แบ่งฉีดกล้ามเนื้อ (Deltoid) ที่แขนทั้ง 2 ข้างๆ ละ 0.1 mL ทำบัตร นัดฉีดยากำหนดวันดังนี้
ฉีดวัคซีนครั้งที่ 1 (Day 0)
วันที่……..(วันที่มาฟังผลและตกลงเข้าโครงการ)
ฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 (Day7)
วันที่……..(7 วันหลังจากฉีดยาเข็มที่ 1)
ฉีดวัคซีนครั้งที่ 3 (Day21)
วันที่……..(21 วันหลังจากฉีดยาเข็มที่ 1)
  • หลังจากฉีดยาครบ 3 เข็ม แล้วเมื่อครบกำหนด 2 สัปดาห์ เริ่มบริจาคพลาสมาได้ และสามารถ บริจาคได้ทุก 14 วัน ในระหว่างที่อยู่ในโครงการบริจาคจะต้องมีการฉีดยากระตุ้นตลอดทุก 3 เดือน

พลาสมาในกลุ่มที่ไม่ต้องฉีดวัคซีนผลิต Fractionation คัดเลือกผู้บริจาคแบบเดียวกันแต่ไม่ต้องมีการฉีดวัคซีน

การดูแลเพิ่มเติมสำหรับผู้บริจาคพลาสมา

ตรวจติดตามระดับ Total Protein และ Albumin ทุก 6 เดือน ในผู้บริจาคพลาสมาทุก ถ้า Protein ต่ำกว่า 6.0 g/dl ให้ผู้บริจาคหยุดการบริจาคชั่วคราว และนัดมาตรวจซ้ำหลังจาก นั้น 1 เดือน ถ้ามากกว่า 6.0 g/dl สามารถบริจาคต่อได้

วิธีการบริจาค

การบริจาคพลาสมา จะบริจาคด้วยเครื่องแยกส่วนประกอบโลหิตอัตโนมัติ (Blood Cell Separator) ใช้เวลาในการบริจาค ประมาณ 45 นาที ครั้งละ 500 ซีซี บริจาคได้ทุก 14 วัน

วันและเวลาทำการ

วันจันทร์ พุธ ศุกร์
(ไม่ปิดพักกลางวัน)

เวลา 08.30-16.30 น.
(ปิดรับบริจาคเกล็ดเลือด เวลา 15.30 น. )

วันอังคาร พฤหัสบดี
(ไม่ปิดพักกลางวัน)

เวลา 07.30-19.30 น.
(ปิดรับบริจาคเกล็ดเลือด เวลา 18.00 น. )

วันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์
(ไม่ปิดพักกลางวัน)

เวลา 08.30-12.30 น.
(ปิดรับบริจาคเกล็ดเลือด เวลา 12.00 น.)

นัดหมายการบริจาคเกล็ดเลือด  หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2-263-9600 -99 ต่อ 1143,1144

วันและเวลาทำการห้องรับบริจาคพลาสมา ชั้น 2

เปิดทำการเฉพาะ วันจันทร์-ศุกร์
(ไม่หยุดพักกลางวัน)

เปิดทำการเฉพาะ วันจันทร์-ศุกร์
เวลา 08.30-16.30 น.
ปิดทำการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2256 4300, 0 2263 9600-99 ต่อ 1101,1203